ตักน้ำใส่โอ่งชะโงกดู 'เหง้า' ที่

เถ้าฮงไถ่ ราชบุรี

เถ้าฮงไถ่ : ดีคุ้น (Tao Hong Tai : d Kunst) หอศิลป์ร่วมสมัยแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีซึ่งทำหน้าที่รวบรวมโอ่งมังกรยุคใหม่หลากดีไซน์หลายการตีความ ไม่ว่าจะ ‘ขบขัน’ หรือ ‘คลาสสิก’ ต่างก็สะท้อนรากเหง้าแห่งความสุขในวิถีแบบคนไทยได้อย่างชัดเจน

  

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา ตัวเมืองราชบุรีมีจุดน่าสนใจแห่งใหม่เกิดขึ้น โดย ติ้ว – วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ทายาทรุ่นที่ 3 ของโรงงานเถ้าฮงไถ่ ผู้ผลิตโอ่งมังกรรายแรกและรายใหญ่ที่สุดของจังหวัด ในอีกบทบาท เขาคือผู้ก่อตั้ง ‘หอศิลป์ดีคุ้น’ หรือที่มีชื่อเต็มๆ ว่า ‘ เถ้าฮงไถ่ : ดีคุ้น’ ซึ่งตั้งอยู่หัวมุมถนนสฤษดิ์เดช ถัดจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี

“เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมเรียนจบกลับมาจากเยอรมนี ก็มองว่าราชบุรีเป็นเมืองเล็กๆ ที่น่าจะสร้างชื่อเสียงด้านศิลปะร่วมสมัยได้ เลยพยายามริเริ่ม เข้าไปสนับสนุนการนำศิลปะมาสู่ชุมชนในรูปแบบต่างๆ”

วศินบุรีเล็งเห็นว่าราชบุรีมีศักยภาพในการเป็น ‘เมืองแห่งศิลปะ’ ก็เพราะเขารู้ดีว่า บ้านเกิดของตนเองเป็นดินแดนที่ร่ำรวยด้วยศิลปะมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์

 

“ราชบุรีมีการพัฒนาทางด้านศิลปะมาโดยตลอดครับ เรามีรากมาอย่างยืนยาว แต่มันเพิ่งขาดช่วงไป เขาพูดกันว่าราชบุรีเป็นแค่เมืองทางผ่าน ผมจึงพยายามเสริม..เติม..ดึง ศิลปะให้เข้ามาอยู่ในราชบุรี ประจวบเหมาะกับที่สวนผึ้งกำลังมีกระแสด้านการท่องเที่ยว และศิลปินที่บ้านเกิดอยู่ที่นี่หลายท่านก็ได้เริ่มกลับมาทำกิจกรรมในราชบุรีมากขึ้น เช่น คุณมานพ มีจำรัส ที่ทำงานร่วมกับครูเล็ก – ภัทราวดี มีชูธน หรืออย่างโพธารามก็มีชมรมรักบ้านเก่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่กระแสมาเจอกัน ทำให้ความเป็น ‘เมืองศิลปะ’ ของราชบุรีเป็นรูปเป็นร่างขึ้น”

หลังจากเล่าให้ฟังถึงที่มาของแนวคิดการทำพื้นที่ศิลปะในชุมชน วศินบุรีก็พาเราทัวร์พื้นที่ต่างๆ ของแกลเลอรี ซึ่งเดิมทีเป็นบ้านทรงมะนิลาหลังคาปั้นหยาอายุ 100 กว่าปีที่เหลืออยู่เพียงหลังเดียวในจังหวัด เขาชี้ให้ดูภาพถ่ายบ้านก่อนบูรณะ

“ผมชอบบ้านหลังนี้มาก เคยพาเพื่อนๆ น้องๆ มาถ่ายรูป ภายหลังได้ทราบว่าบ้านหลังนี้หลุดจำนอง ปรากฏว่าเตี่ยเราเองนี่ล่ะที่ไปประมูลเอาไว้ ผมเลยขอท่านทำเป็นหอศิลป์อย่างที่ตั้งใจ 

“คอนเซ็ปต์การออกแบบคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้สถาปัตยกรรมและศิลปะการตกแต่งภายในสมัยรัชกาลที่ 5 ยังคงลักษณะเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ผมอยากต่ออายุให้บ้านหลังนี้ ไม่ได้อยากสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมาบนพื้นที่ จึงพยายามใช้ความ Modern เชื่อมต่อกับ Traditional”

หอศิลป์ดีคุ้นประกอบไปด้วยพื้นที่ 3 ชั้นในการแสดงงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นโอ่งรูปลักษณ์ใหม่ ภาพถ่าย ตลอดจนข้าวของโบราณ ชั้นล่างที่เดิมทีเป็นใต้ถุนสูงได้มีการรวบรวมหนังสือเกี่ยวกับงานศิลปะให้คนมานั่งอ่าน และสามารถเดินออกไปชมวิวสวนที่ตกแต่งด้วยเซรามิคแปลกตาได้ ในขณะที่ชั้นสองเป็นพื้นที่ของคาเฟ่เล็กๆ สำหรับนั่งทานเค้ก จิบชากาแฟ พร้อมชมวิวแม่น้ำแม่กลอง

แกลเลอรีดีคุ้นประเดิมนิทรรศการแรกด้วยโอ่งมังกรในสไตล์ สุรพร เลิศวงศ์ไพฑูรย์ นักโฆษณามือฉมัง ภายใต้ชื่อนิทรรศการ ‘เป็นบ้าง อะไรบ้าง’ (Stuff Like That) สุรพรมองว่าโอ่งเป็นตัวแทนของวิถีชีวิต เขาจึงนำเอาสัญลักษณ์ที่สำคัญของราชบุรีอย่างโอ่งมังกร มาเล่นกับความรู้สึกของผู้คนที่กำลังเลือนหายไป มีการสร้างสรรค์ผลงานโดยล้อไปกับความเชื่อ ความทรงจำ และความคุ้นชินของพวกเราชาวไทย

แม้ว่าจะเพิ่งเปิดให้เข้าชมได้เพียงสองเดือน แต่ดีคุ้นก็ได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากคนในราชบุรี

“เขาดีใจเพราะเราอนุรักษ์บ้านเอกชนหลังสุดท้ายไว้ให้เข้ามาชม โครงการต่อไปเราหวังจะให้ทุกบ้านเป็นแกลเลอรี เอาคนในชุมชนมาพูดหรือตีความศิลปะในความเข้าใจของเขา แล้วจัดแสดงงานที่บ้านของแต่ละคนเลย”

เขาเล่าให้เราฟังว่า วันก่อนเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งมาที่นี่และชอบใจมาก อยากเข้ามามีส่วนร่วม แม้กระทั่ง ททท. และทางจังหวัดเองก็เริ่มเห็นความสำคัญและอาจจะบรรจุวาระ ‘ราชบุรีเมืองศิลปะร่วมสมัย’ เข้าไปในวิสัยทัศน์”

“ช่วงแรกๆ ผมต้องตอบคำถามผู้ใหญ่มากเลยว่า มันจะเป็นเอกลักษณ์ของราชบุรีได้อย่างไร ผมจึงชี้ให้เห็นว่า เมื่อ 80 ปีที่แล้ว ที่นี่ก็ไม่ได้มีโอ่งมังกรมาก่อน จนกระทั่งอากงผมมาบุกเบิก ราชบุรีจึงมีเอกลักษณ์ใหม่ขึ้นมาในยุคนั้น แต่เราจะหากินกับของเก่าไปตลอดโดยไม่สร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาเลยหรือ แกลเลอรีของผมเป็นแค่จิ๊กซอว์ตัวหนึ่งของราชบุรีเท่านั้น”

“ไม่แน่นะครับ ต่อไปคำขวัญจังหวัดราชบุรีอาจเพิ่มเป็นเมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่ ศิลปะร่วมสมัย…ก็เป็นได้” วศินบุรีกล่าวด้วยรอยยิ้ม 

เรื่อง ศศิขวัญ

ภาพ ศศิขวัญ

 

เถ้าฮงไถ่ : ดีคุ้น ถนนวรเดช ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี