แสงสลัวสีทองพาดผ่านผนังสีเข้มของ ค็อกเทลบาร์ ที่สูงราวตึกสามชั้น เผยให้เห็นการเรียงตัวของก้อนอิฐตามแนวกำแพงชั้นล่างสุด ฉับพลันสีสันของเครื่องดื่มสารพัดดีกรีบาดสะท้อนเข้านัยย์ตา ช่วยพร่าเลือนเส้นแบ่งแห่งจินตนาการและความเป็นจริง สอดรับกับเสียงเพลง R&B ที่ยวนอารมณ์ให้อยากลิ้มลองค็อกเทลแก้วใหม่ในค่ำคืนนี้

ค็อกเทลบาร์ ตั้งอยู่ภายในบูทีคมอลล์ Mansion 7 ที่ชูกลยุทธ์การขายความหลอน เมื่อผลักบานประตูวินเทจสไตล์ยุโรปเข้าไปในร้าน เราจะพบกับบรรยากาศแบบอินดัสเทรียลที่ตกแต่งด้วยท่อเหล็กและหัววาล์วชิ้นเท่ เสริมด้วยพัดลมระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกราวกับว่า กำลังก้าวขาเข้ามาเยือนโรงงานเก่าในยุคแรกเริ่มปฎิวัติอุตสาหกรรม

ค็อกเทลบาร์

ลวดตาข่ายช่วยกำหนดสัดส่วนการใช้พื้นที่ภายในร้านไม่ให้ดูคับแคบและทึบตาจนเกินไป ทั้งยังช่วยเปิดมุมมองโปร่งๆ ให้เห็นลิฟต์ขนส่งอาหาร ซึ่งตัวลิฟต์ไม่เพียงมีประโยชน์ในงานบริการ แต่กลไกและระบบสายพานของมันยังเป็นตัวช่วยในการสร้างมิติแห่งความเคลื่อนไหว คลับคล้ายว่าโรงงานแห่งนี้ยังคงขับเคลื่อนอยู่เสมอ

บันไดวนด้านในสุดของร้านและทางเดินโลหะกันลื่น นำพาเราขึ้นไปสู่พื้นที่ชั้นสอง เผยให้เห็นแผงบาร์สุดอลังการในมุมสูง รวมถึงลีลาการมิกซ์เครื่องดื่มของบาร์เทนเดอร์มือรางวัลซึ่งขึ้นชื่อด้านการรังสรรค์ ‘แฟลร์ ค็อกเทล’ (Flair Cocktail)

ค็อกเทลบาร์

เครื่องดื่มของ ค็อกเทลบาร์ ถือว่าราคาไม่สูงเกินงามเมื่อเทียบกับทักษะชั้นสูงของบุคลากร โดยเริ่มต้นที่ 240/ 300/ 400 บาทต่อแก้วเท่านั้น ทว่าตกดึกยอดบิลเรียกเก็บอาจบานปลาย นั่นเพราะ ‘โรงงานสวรรค์’ แห่งนี้มีค็อกเทลและม็อกเทลให้เลือกชิมอยู่มากถึง 40-50 สูตร

โดยเมนูซิกเนเจอร์ที่น่าสนใจก็มีตั้งแต่ ‘Love Struck’ ค็อกเทลสีฟ้าอ่อนกลิ่นมะนาวผสานความหวานของน้ำผึ้ง ‘Soulmate’ สำหรับคู่รักนักดื่มที่ควงคู่กันมาชนแก้วในค่ำคืนที่มีความหมาย ‘Creepy’ ชื่อชวนขนลุก ทว่ารสชาติประทับใจไม่รู้ลืม ‘Aggressive’ ค็อกเทลตัวแรงที่สร้างความมึนเมาหลายริกเตอร์ด้วยเลเยอร์เหล้า 3 ระดับความเข้มข้น สุดท้ายใครไปต่อไม่ไหวให้บรรเทาอาฟเตอร์ช็อคด้วยม็อกเทลสูตรเยียวยาอย่าง ‘Dr.Jane’

ค็อกเทลบาร์

เรื่องและภาพ Sasikwan S.